PRODUCT

เหล็กแผ่นลายชุปกัลวาไนซ์ คือ เหล็กแผ่นที่มีการนำไปเคลือบผิวด้วยสังกะสี ทำให้ได้เหล็กแผ่นที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อสนิม และมีพื้นผิวที่ไม่ลื่นเป็นลายๆ เหมาะสำหรับงานก่อสร้างที่ต้องการความแข็งแรงทนทาน เช่น บันได รั้ว หรือพื้นที่เดิน

เหล็กฉากกัลวาไนซ์เป็นวัสดุก่อสร้างที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในงานก่อสร้างทั้งภายในและภายนอกอาคาร ด้วยคุณสมบัติที่ป้องกันสนิม ทนทาน น้ำหนักเบา และติดตั้งง่าย เหล็กฉากชุบกัลวาไนซ์จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับงานก่อสร้างต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างหลังคา โครงสร้างสะพาน โรงงาน โกดัง และงานตกแต่งต่าง ๆ เหล็กรางน้ำกัลวาไนซ์เป็นวัสดุก่อสร้างที่มีความสำคัญในการทำระบบรางน้ำฝน ด้วยคุณสมบัติที่ป้องกันสนิม ทนทาน น้ำหนักเบา และสวยงาม เหล็กรางน้ำกัลวาไนซ์จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับงานก่อสร้างต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน อาคารพาณิชย์ หรือโรงงาน

เหล็กรางรถไฟหรือที่รู้จักในชื่อ Rail Beam เป็นชนิดของเหล็กที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักและแรงเสียดทานที่สูงมาก เหล็กประเภทนี้มีคุณสมบัติที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานและความเสถียรของโครงสร้าง เช่น การใช้เป็นรางเดินเครนหรือรอกในโรงงานอุตสาหกรรม รางรถไฟ หรือในการสร้างแท่นเครื่องหรือฐานเครื่องจักรที่ต้องรับแรงสั่นสะเทือนและน้ำหนักจำนวนมาก

ลวดผูกเหล็ก (Wire Rod) คือลวดที่ใช้รัดเหล็กเส้นในการก่อสร้างเทคอนกรีตมีมาตรฐานตามมอก. 138-2518 และต้องเป็นลวดเบอร์ 18 หรือมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.25 มิลลิเมตร เนื่องจากมีคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับใช้ในการผูกเหล็กเส้น

เหล็กแป๊ปกล่องกัลวาไนซ์ (Galvanized Square Pipes) คือเหล็กแป๊ปกล่องที่ถูกนำไปผ่านกระบวนการเคลือบผิวเหล็กด้วยการชุบสังกะสีในช่วงอุณหภูมิ 435-455 องศาเซลเซียส เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดสนิม

เหล็กแป๊ปแบนกัลวาไนซ์ (Galvanized Rectangular Pipe) คือเหล็กแป๊ปแบนที่ถูกนำไปผ่านกระบวนการเคลือบผิวเหล็กด้วยการชุบสังกะสีในช่วงอุณหภูมิ 435-455 องศาเซลเซียส เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดสนิม

เหล็กเส้นแบ่งเป็นสองประเภทคือ เหล็กเส้นกลม(Round Bar) และเหล็กเส้นข้ออ้อย(Deformed Bar) เหมาะสำหรับงานคอนกรีตเสริมเหล็กและงานก่ออิฐทั่วไป โดยใช้ในการเพิ่มความสามารถในการรับแรงกับโครงสร้าง สินค้ามีมาตรฐาน มอก. 20-2559

เหล็กแผ่นขาว(Cold rolled steel plate)ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีหลากหลายขนาด และความหนา ซึ่งความหนาของเหล็ก มีตั้งแต่ 0.35 – 3.40 มิลลิเมตร

เหล็กกล่องเหลี่ยม(Carbon Steel Square Pipes) มีลักษณะเป็นท่อรูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส ด้านในกลวง มีความยาว 6 เมตรเหมาะกับงานที่โครงสร้างที่รองรับน้ำหนักไม่มาก เช่น นั่งร้าน เสา และสามารถใช้แทนคอนกรีต หรือไม้

เหล็กแผ่นดำ(Hot Rolled steel plate) ลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีผิวที่เรียบ ซึ่งขนาดที่นิยมใช้กันคือ 4'×8′, 5'×10′ และ 5'x20′ ส่วนเกรดเหล็กแผ่นดำที่เป็นที่นิยมและจัดจำหน่ายโดยทั่วไปคือเกรด SS400

เหล็กเส้นข้ออ้อย(Deformed Bar) มีลักษณะผิวมีครีบหรือบั้งเป็นปล้องๆมีระยะห่างที่เท่ากันตลอดทั้งเส้น โดยครีบและบั้งจะมีคุณสมบัติ ในยึดเกาะกับคอนกรีตได้ดีเหมาะสำหรับงานคอนกรีตเสริมเหล็กและงานก่ออิฐทั่วไป โดยใช้ในการเพิ่มความสามารถในการรับแรงกับโครงสร้าง สินค้ามีมาตรฐาน มอก. 24-2559

เหล็กแผ่นซิงค์(Zinc plate) มีลักษณะของพื้นผิวที่เรียบเนียนและเงางาม เหมาะสมสำหรับการนำไปใช้ในงานที่เน้นความสวยงามของเหล็ก สามารถทนทานต่อการสึกกร่อนได้ดี

เหล็กท่อประปา(Galvanized Steel Pipe) เกิดจากการนําท่อดํา ไปชุบสังกะสีหรือกัลป์วาไนซ์เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดสนิม การผุกร่อนทนทาน และอายุการใช้งานที่ทนทานกว่าท่อดําที่เคลือบและไม่เคลือบสีรองพื้น ลักษะท่อจะเป็นสีเงินเงาส่วนใหญ่จะนําไปทําท่อแป๊บน้ํา เสาโครงเต็นท์

เหล็กแบน ที่รู้จักในภาษาอังกฤษว่า flat bar หรือ flat bars เป็นวัสดุสำคัญของวงการการก่อสร้างและการผลิตด้านอุตสาหกรรม ด้วยลักษณะที่เป็นแผ่นที่ดูเรียบง่ายแต่มีความยืดหยุ่นสูงในการใช้งาน เหล็กแบนได้กลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในหลายอุตสาหกรรม

เหล็กแผ่นลาย (Checkered plate) ถูกเรียกในหลายๆชื่อแตกต่างกันไปแต่ละบุคคลไม่ว่าจะเป็น ตีนไก่, ตีนเป็ด, แผ่นลาย หรือเหล็กลายดอก โดยคุณสมบัติเหล็กแผ่นลาย คือ ความแข็งแรง ทนทาน และทนต่อแรงเสียดทาน นอกจากนี้ เหล็กแผ่นลายยังช่วยป้องกันการลื่นได้ด้วย

เหล็กสี่เหลี่ยมตัน(Steel Square Bars) มีลักษณะเป็นเหล็กเส้นสี่เหลี่ยมแบบตันมีความยาวมาตรฐาน 6 เมตร เหมาะสำหรับงานทั่วๆไป เช่น เหล็กดัดหน้าต่าง รั้ว ระเบียงเหล็ก หรือทำชิ้นงานต่างๆ

เหล็กเพลาขาว(Steel Round Bars) มีลักษณะเป็นเหล็กเส้นกลมตันมีความยาวมาตรฐาน 6 เมตร มีลักษณะคล้ายเคียงกับเหล็กเส้นกลมทำให้หลายคนอาจเกิดความสับสน เหล็กเพลาขาวมีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน

เหล็กรางน้ำ(Channel Steel)จะเป็นรูป ตัวยูหน้าตัดเหล็กจะมีปีกอยู่ที่ด้านบนและล่าง เพียงข้างใดข้างหนึ่ง ไม่ได้นำมาใช้ กับ โครงสร้างขนาดใหญ่มากนัก เหมือนกับ เหล็กเอชบีม และ เหล็กไอบีม เนื่องจากมีจุดรับแรงที่ไม่ใช่จุดตรงกลาง จึงมีความเฉพาะตัวในการใช้งานที่ต่างออกไป อาจนำมาใช้เพื่อเสริมโครงสร้างรองที่มีขนาดไม่ใหญ่ที่ใช้รับน้ำหนักไม่มาก สินค้ามีมาตรฐาน มอก. 1227-2558

เหล็กฉาก(Angle Steel Bars) ในงานวิศวกรรมนิยม ใช้ทำเสาโครงสร้างขนาดใหญ่ อย่างเสาไฟฟ้า และ เสาส่งสัญญาณวิทยุ เป็นต้น โครงสร้างที่สูงใหญ่ อย่างเสาส่งสัญญาณ นอกจาก ความแข็งแรงในการรับน้ำหนักของตัวโครงสร้างเองแล้ว ยังต้องการความทนทานจากแรงสั่นสะเทือนของลมแรงบนที่สูง สินค้ามีมาตรฐาน มอก. 1227-2558

เหล็กกล่องแบน(Carbon Steel Rectangular Pipes) มีลักษณะเป็นท่อรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านในกลวง มีความยาว 6 เมตรเหมาะสำหรับงานก่อสร้างที่มีขนาดเล็ก หรือขนาดกลาง สามารถใช้ทดแทนไม้ และคอนกรีตได้ เพราะมีน้ำหนักเบา และทนทาน

เหล็กท่อกลมดำ(Carbon Steel Pipes) มีลักษณะเป็นทรงกลมแบบกลวง เหมาะกับงานก่อสร้างจะใช้สำหรับงานขึ้นรูปโครงสร้างต่าง ๆ ซึ่งเป็นงานโครงสร้างที่รับน้ำหนักไม่มากเช่นโครงถักหลังคาเป็นต้น

เหล็กไวด์แฟรงค์(Wide Flange) เหมาะสำหรับงานโครงสร้างเหล็กโดยเฉพาะ สามารถรับน้ำหนักได้มากอีกทั้งยังให้ความคงทนสูงเพราะมีความแข็งแรงมาก สินค้ามีมาตรฐาน มอก. 1227-2558

เหล็กโครงสร้างรูปตัวซี(Lip Channel) คือเหล็กที่ถูกนำมาแปรรูปด้วยขั้นตอนการรีดร้อน ให้ได้สัดส่วน โดยมีความยาวตามเกณฑ์มาตรฐาน 6 เมตร หน้าที่ของเหล็กโครงสร้างตัวซีคือ ใช้สำหรับงานทำโครงหลังคา งานเสาค้ำยันที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมากๆ สินค้ามีมาตรฐาน มอก. 1228-2561

เหล็กบีม | เหล็กไอบีม | เหล็ก i beam เป็นเหล็กโครงสร้างที่สำคัญ นิยมใช้ในงานก่อสร้างทั่วไป เหมาะสำหรับงานโครงสร้างเหล็กโดยเฉพาะ สามารถรับน้ำหนักได้มากอีกทั้งยังให้ความคงทนสูงเพราะมีความแข็งแรงมาก สินค้ามีมาตรฐาน มอก. 1227-2558เพราะมีความแข็งแรง ทนทาน รองรับน้ำหนักได้ดี แต่ละประเภทของเหล็กมีลักษณะ ข้อดี และการใช้งานที่แตกต่างกัน ควรเลือกใช้เหล็กให้เหมาะสมกับงาน

เหล็กเอชบีม (H-Beam) คือ เหล็กที่มีตัวตัวตัวหน้าข้างเป็นรูปตัว H จึงเรียกว่า "เอชบีม" เหล็ก h beam ชนิดนี้เป็นหนึ่งในประเภทของเหล็กโครงสร้างที่ใช้สำหรับการก่อสร้างและการผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ มีลักษณะที่มีขนาดหนาและมีน้ำหนักมากกว่าเหล็กแท่งปกติ เหล็กเอชบีมใช้สำหรับการสร้างอาคาร, สะพาน, และโครงการก่อสร้างต่างๆ ที่ต้องการความแข็งแรงและความทนทาน สินค้ามีมาตรฐาน มอก. 1227-2558

เหล็กชีทไพล์(Sheet Pile) เป็นเหล็กเข็มพืดรีดร้อนที่มีเขี้ยวอยู่ที่ปลายทั้งสองด้านซึ่งสามารถตอกสลับเพื่อเข้าเขี้ยวกันแล้วล็อคต่อกันไปเรื่อยๆได้ เหมาะนำมาทำโครงสร้างในลักษณะกำแพงที่ต้องรับแรงมากๆ แต่มีเวลาและพื้นที่อย่างจำกัดเพราะชีทไพล์จะมีความแข็งแรงและมีความรวดเร็วในการก่อสร้างกว่าการสร้างแนวกำแพงแบบอื่นๆ สินค้ามีมาตรฐาน มอก. 1390-2560

เหล็กไวร์เมช(Wire Mesh) คือตะแกรงเหล็กที่เชื่อมติดกันเป็นตะแกรงเพื่อเสริมคอนกรีตให้ยึดเกาะติดกันสำหรับสิ่งก่อสร้างทอติดกันเป็นผืน และทนทานต่อการรับแรงดึงมากกว่าเหล็กเส้นที่นำมาผูกเอง