เหล็กบีม | เหล็กไอบีม | เหล็ก i beam

จุดสังเกต คือ เนื้อเหล็กของปีกด้านบนและปีกด้านล่างมีความลาดเอียง และยังมีความหนาของเหล็กมากกว่า เพื่อสามารถรับน้ำหนักและแรงกระแทกได้ดี เหล็กโครงสร้างชนิดนี้มีเนื้อเดียวกัน อีกทั้งยังมีมวลน้ำหนักต่อเมตรสูงกว่าเหล็กเอ็ชบีมอีกด้วย

มอก. 1227-2558

เหล็กบีม | เหล็กไอบีม | เหล็ก i beam คือ?

เหล็กบีม | เหล็กไอบีม | เหล็ก i beam คือเหล็กรูปพรรณรีดร้อนที่มีลักษณะรูปร่างเมื่อมองในมุมด้านหน้าคล้ายตัวอักษร “I” ใช้สำหรับงานโครงสร้างเหล็กโดยเฉพาะ มีความแข็งแรงมาก จึงนำไปใช้มากในโครงสร้างใหญ่ๆ เช่น ตึก อาคารสำนัก และโรงงาน โกดัง มีชื่อเรียกหลากหลาย เช่น เหล็กตัวไอ เหล็กปีกไอ เสาบีม และมาตรฐานเกรดเหล็กไอบีมปัจจุบันที่นวสยามมีจำหน่ายมีความยาวมาตรฐาน3ขนาดได้แก่ ขนาดความยาว 6เมตร 9 เมตร และ12เมตร โดยทั้งหมดเป็นเกรด SS400 เเละ SM 520 เเต่สำหรับประเทศไทยส่วนใหญ่จะนิยมเหล็กไอบีมเกรด SS400 ไปใช้งานในการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ รางเครนในโรงงาน และโครงสร้างต่างๆ ที่ต้องรองรับน้ำหนักมากๆ

เหล็กบีม | เหล็กไอบีม | เหล็ก i beam มีคุณสมบัติและประโยชน์ที่น่าสนใจดังนี้

• ความแข็งแรง
  • เหล็กไอบีมมีความแข็งแรงสูง ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในโครงสร้างที่ต้องรับน้ำหนักมาก อาทิ ตึกสูง สะพาน และโรงงานขนานใหญ่
    
• รูปร่าง
  • มีรูปร่างเป็นตัว “I” ทำให้เหมาะสำหรับการรวมกันในโครงสร้าง และสามารถรองรับแรงกดและแรงดึงได้ดี
    
• ความยืดหยุ่นในการใช้งาน
  • เหล็กไอบีมมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถตัดเป็นชิ้นยาวตามความต้องการได้ และใช้ในงานต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
    ความทนทานต่อสภาพอากาศ: เหล็กไอบีมมีความทนทานต่อสภาพอากาศ ไม่เสียหายจากฝน หรือความชื้น

• น้ำหนัก
  • เหล็กไอบีมมีน้ำหนักเบา ทำให้ง่ายต่อการขนส่งและติดตั้ง
    ทุกครั้งในกรณีที่ต้องการใช้เหล็กไอบีมในโครงการใด ๆ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสม

เหล็กไอบีม (I-Beam) และเหล็กเอชบีม (H-Beam) เป็นสองชนิดของเหล็กที่ใช้ในงานโครงสร้างเหมือนกันแต่มีความแตกต่างกันดังนี้

• ลักษณะภายนอก 
  • เหล็กไอบีม (I-Beam): มีรูปตัว “I” ที่สังเกตได้ชัด ปีกบนและล่างมีความลาดเอียงเข้าสู่แกนกลาง และปลายมีความโค้งมน ปีกมีความหนากว่าแกนกลาง 
    
  • เหล็กเอชบีม (H-Beam): ไม่มีความโค้งเข้าสู่แกนกลาง ปีกทั้งบนและล่างเป็นแผ่นเรียบ ความหนาของปีกเท่ากับแกนกลาง
    
• น้ำหนัก
  
  • เมื่อเปรียบเทียบขนาดหน้าตัดเหล็กที่เท่ากัน และในกรณีที่เหล็กมีความหนาเท่ากัน จะพบว่า เหล็กไอบีม (I-Beam) มีน้ำหนักต่อเมตรสูงกว่า เหล็กเอชบีม (H-Beam) เล็กน้อย
    
• การใช้งาน
  
  • เหล็กเอชบีม (H-Beam): มีหน้าตัดหลายขนาด ใช้ในงานโครงสร้างต่าง ๆ ตั้งแต่งานเสา คาน โครงหลังคา ไปจนถึงโครงสร้างขนาดใหญ่ เช่น โรงจอดเครื่องบิน
    
  • เหล็กไอบีม (I-Beam): เหมาะกับงานก่อสร้างที่ต้องรับน้ำหนักมากหรืองานที่ต้องรับแรงกระแทก มีความหนาของปีกที่รองรับแรงกระแทกได้ดีกว่าเหล็กเอชบีม

ตัวอย่างราคาเหล็กบีม | เหล็กไอบีม | เหล็ก i beam ในปัจจุบัน (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)*

• เหล็กไอบีม 150×75×5.5×9.5มม. ราคา ฿3,653/ เส้น
  
• เหล็กไอบีม 200×100×7.0×10.0มม. ราคา ฿5,554/ เส้น
  
• เหล็กไอบีม 250×125×7.5×12.5มม. ราคา ฿8,181/ เส้น
  
• เหล็กไอบีม 300×150×8.0×13.0มม. ราคา ฿10,317/ เส้น
  
• เหล็กไอบีม 350x150×9.0×15.0มม. ราคา ฿12,706/ เส้น

• 150x75 คือเหล็กไอบีมขนาดหน้ากว้างแกน และปีก 150มม.x75มม. หรือ 6x3นิ้ว
  
• 5.5x9.6 คือขนาดความหนาแกน และปีก 5.5มม.x9.5มม.
  
• 6 เมตร คือขนาดความยาวมาตรฐานของเหล็กไอบีม

การใช้งาน

ใช้ทำรางเครนในโรงงานอุตสาหกรรม งานเครื่องจักร ทำเสา คาน งานโครงสร้างต่างๆ ที่ต้องรองรับน้ำหนักมากๆ

 รายชื่อผู้ผลิตเหล็กไอบีมที่"นวสยาม สตีล"จำหน่าย

• บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด

อ่านบทความเพิ่มเติม